แนวข้อสอบนักวิชาการพาณิชย์ (อัตนัย)
(1) ถ้าเปิด AEC จะมีผลต่อกระทบต่ออุตสาหกรรมไทยและผลกระทบต่อภาคการเกษตรไทยอย่างไรบ้าง
ตอบ ภายใต้ข้อตกลง AEC จะทำให้ไทยหันมาค้าขายกับประเทศในภูมิภาคมากขึ้นและมีการค้ากับประเทศตลาดหลักลดลง
1. สินค้าไทยส่งออกไปอาเซียนได้มากขึ้นอันเป็นผลมาจากการขจัดอุปสรรคทางการค้าทั้งด้านภาษีและด้านที่ไม่ใช่ภาษี จากการศึกษาเรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป ภาพรวมการค้าไทยมีผลกระทบต่อ 10 รายการหลัก ไทยจะเกินดุลการค้าในกลุ่มอาเซียนเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2551 ที่มีการเกินดุล 1,400.8 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐทั้งนี้การเกินดุลมาจากการส่งออกไทยไปอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และสินค้าที่ทำให้ไทยส่งออกเพิ่มขึ้นและเกินดุลมากที่สุด คือ กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนกับกลุ่มเกษตรแปรรูป ส่วนอุตสาหกรรมบริการ ไทยจะเกินดุลในธุรกิจอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การส่งออกและภาคบริการที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจะช่วยให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะงานทางด้านวิศกร การแพทย์และเกษตรกร
2. ไทยจะได้ประโยชน์จากขนาดของตลาดและฐานการผลิตร่วมกัน เพราะประเทศสมาชิกในอาเซียน แต่ละประเทศมีลักษณะ ปริมาณและคุณภาพของปัจจัยการผลิต เทคโนโลยีการจัดการและการบริหารที่ต่างกัน ก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาดแก่ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการไทยได้
3. เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของไทยในเวทีโลกจากการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งกับประเทศสมาชิกอาเซียน จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาคมโลกเกี่ยวกับพัฒนาการในด้านเศรษฐกิจของไทยและของภูมิภาค
4. คนไทยจะมีสินค้าที่หลากหลายทั้งคุณภาพ รูปแบบและราคาให้เลือกซื้อได้ตามความพอใจและระดับของรายได้การเปิดเสรีด้านการค้า
ภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA (ASEAN Free Trade Area)ซึ่งเริ่มในปี 2535 โดยมีการทยอยลดอัตราภาษีศุลกากรระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างต่อเนื่อง และในปี 2553 ประเทศอาเซียนเดิม 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และบรูไน จะต้องลดอัตราภาษีศุลกากรระหว่างกันให้เหลือ 0% ในรายการ Inclusive List ขณะที่ประเทศสมาชิกใหม่อีก 4 ประเทศ คือ กัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม ต้องทยอยลดอัตราภาษีศุลกากรจนเหลือ 0% ภายในปี 2558 เป็นที่น่าสังเกตว่า การเปิดเสรีการค้าของอาเซียนทำให้สินค้าส่งออกหลายรายการของไทยได้เปรียบคู่แข่ง ในอาเซียน ขณะที่สินค้าบางรายการต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยกลุ่มสินค้าส่งออกที่คาดว่าจะได้เปรียบจากการเปิดเสรีดังกล่าวมีหลายรายการ อาทิ ข้าวโพด ผลิตภัณฑ์ยาง และเฟอร์นิเจอร์ ในตลาดอินโดนีเซีย เสื้อผ้าสำเร็จรูป เฟอร์นิเจอร์ รถยนต์ในตลาดมาเลเซีย เป็นต้น ขณะที่สินค้าส่งออกบางรายการจำเป็นต้องปรับตัว รวมทั้งสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม อาทิ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผ้าผืน เม็ดพลาสติก ในตลาดอินโดนีเซีย ยางพารา ผ้าผืนในตลาดฟิลิปปินส์ เป็นต้น
ผลกระทบต่อภาคการเกษตรไทย
ประเทศไทยมีภาคการเกษตรที่ใหญ่และสำคัญ มีทรัพยากรธรรมชาติด้านการเกษตรอุดมสมบูรณ์ มีภาคการเกษตรอุตสาหกรรมที่ก้าวหน้าทันสมัย เช่น กลุ่มบริษัท ซี พี การผลิตด้านอาหารมนุษย์ อาหารสัตว์ และปัจจัยการผลิตทางการเกษตร เกษตรกรที่ก้าวหน้า และที่ล้าหลัง จะมีการปรับตัวในด้านการแข่งขัน การเคลื่อนย้ายทุนและแรงงานในระหว่างภาคการเกษตร จะเกิดขึ้นมาก การสูญเสียที่ดิน และอุตสาหกรรมการผลิตระหว่างกันจะเกิดขึ้นมาก อุตสาหกรรมอาหาร จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในด้านคุณภาพ ปริมาณ และราคาจะถูกลง การขนส่ง หรือโลจิสติกทางด้านการผลิตอาหาร การเกษตร และอุตสาหกรรมจะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และพัฒนามากยิ่งขึ้น แรงงานการเกษตรซึ่งเป็นแรงงานระดับต่าง ๆ จะมีการเคลื่อนย้าย อพยพ เช่นที่เกิดขึ้นในภาคการผลิตการเกษตรของไทย คนงานไร้ฝีมือจากประเทศเพื่อนบ้าน ลาว พม่า เขมร อพยพเข้ามาอย่างถูก และไม่ถูกกฏหมายเพื่อจ้างงานในภาคการผลิตอาหารและการเกษตรของไทย และคนงานไทยกึ่งมีฝีมือได้เคลื่อนย้ายออกไปยังมาเลย์เซีย สิงคโปร์ และนอกกลุ่มอาเซียน เช่นญี่ปุ่น เกาหลี ตะวันออกกลาง อิสราเอล ออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกา เป็นต้น
สินค้าเกษตรจำนวนหนึ่งจัดเป็นสินค้าในกลุ่มสินค้าอ่อนไหวในการเปิดเสรีภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยที่อัตราภาษีไม่ต้องเป็น 0% แต่ต้องไม่เกิน 5% สินค้าเกษตรส่วนใหญ่ไทยจะมีความสามารถในการแข่งขันสูงจึงควรเดินหน้าเปิดเสรีเต็มที่ มีสินค้าเกษตรบางประเภท เช่น กาแฟ มันฝรั่ง มะพร้าวแห้ง ไม้ตัดดอก เป็นต้น ที่เราควรยังมีอัตราภาษี 5% เพื่อปกป้องกิจการผู้ผลิตและควรทะยอยปรับลดภาษีในอนาคตเมื่อเกษตรผู้ผลิตปรับตัวรับการแข่งขันได้ดีขึ้น
(2) ถ้าคุณเป็นนักวิชาการพาณิชย์ คุณจะให้ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย
อย่างไรถึงจะแข่งขันกับ AEC ได้
ตอบ ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย
1. ปรับปรุงและพัฒนาสินค้าให้มีมาตรการสินค้าสูงขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เข้าถึงผู้บริโภคของอาเซียน
2. บริหารจัดการการผลิตบนพื้นฐานของต้นทุนการผลิตที่ลดลง
3. สร้างและใช้ประโยชน์จาก Regional Supply Chain : หาพันธมิตรและเครือข่ายทั้งต้นน้ำและปลายน้ำใน ตลาดอาเซียนเพื่อร่วมกันลดต้นทุนการผลิตและเข้าถึงผู้บริโภค
4. พัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมในการแข่งขัน
5. เรียนภาษาประเทศเพื่อนบ้านอย่างน้อย 1 ภาษา
6. ให้ภาคเอกชนใช้ประโยชน์จาก พ.ร.บ. มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น 2550 และความ ตกลงอาฟตามาตรา 6 ข้อ 1 มาตรการฉุกเฉิน สามารถระงับสิทธิภายในกรอบและระยะเวลาเท่าที่จำเป็นได้
#คลิ๊กดูแนวข้อสอบราชการที่ www.โหลดแนวข้อสอบราชการ.com
#รวมข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมโดยอาจารย์ของสถาบัน
#เจาะลึกครอบคุมตรงประเด็น เนื้อหาสาระสำคัญ ข่าวสารทันโลก
#จำหน่ายแนวข้อสอบมานานกว่า 10 ปี การรันตีจากผู้สอบติดมากมาย
#รวมหนังสือหรือไฟล์ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งติว
แนวข้อสอบมี 2 รูปแบบ
1.แบบที่ 1 รอรับได้เลย ราคาเพียง 399 บาท (รอรับ 1-2 ชม หลังโอน)
2.แบบที่ 2 หนังสือ **ฟรี MP3** ราคา 699 บาท (ส่งฟรีขนส่งเอกชน)
ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ
โทร: 082-8551615 (คุณปาณิสรา)
Line ID : Panisara_test หรือคลิ๊กสั่งซื้อทันที
ชำระค่าสินค้าและบริการ
-ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 983-0-97701-3
-ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 549-2-17930-4
(ชื่อบัญชี ปาณิสรา พระกาย ออมทรัพย์ )